วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

กำจัดไขมันล้นใกล้วงแขน เพื่อความสวยยามใส่เสื้อกล้าม

กำจัดไขมันล้นใกล้วงแขน เพื่อความสวยยามใส่เสื้อกล้าม






               ยิ่งอายุมาก หรือยิ่งมีน้ำหนักมาก ก็มักจะมีปัญหากับเจ้าเนื้อล้นหลามที่ใกล้วงแขน แม้ว่าหน้าอกหน้าใจจะไม่ได้ใหญ่ แต่ทำไม๊ทำไมมันถึงมากระจุกอยู่ตรงนั้นได้นะ  ปัญหานี้อาจจะเป็นเรื่องเล็ก แต่มันดูไม่สวยยามเราต้องใส่เสื้อรัดรูป หรือเสื้อกล้ามน่ะสิ อย่ามัวแต่โอดครวญเลย เรามาบริหารร่างกายเพื่อกำจัดเจ้าไขมันส่วนนี้ออกไป  ด้วยท่าไม้ตาย 4 ท่าด้วยกัน  ทำท่าละ 4 เซ็ต (เซ็ตละ 10 ครั้งต่อวัน)  โดยสลับท่าละ 1 เซ็ตให้ครบทุกท่า เเล้ววนกลับมาที่ท่าเเรกอีกครั้ง


PUSH UPS
ใช้แขนยันพื้นตามรูป โดยใช้ปลายเท้าจิกกับพื้นจากนั้นก็งอแขนลงช้าๆ หายใจเข้าออกลึกๆ แล้วค่อยๆ ดันตัวขึ้นซึ่งเราสามารถใช้มือยันพื้นได้หากไม่มีอุปกรณ์



FLIES
นอนหงาย มือทั้งสองข้างถือดัมพ์เบล แล้วยกขึ้นจนสุดแขน ทำค้างไว้สักพัก แล้วเอาแขนลง</p>


DUMBBELL ROW
ท่านี้ไม่ยาก แถมยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อปีกหลังไปในตัวด้วย เพียงแค่ยกดัมพ์เบล ขึ้น-ลง ตามภาพ


LAT PULL DOWN

ท่านี้อาจจะต้องเล่นในฟิตเนสเท่านั้น เพราะต้องใช้อุปกรณ์นี้ หมั่นทำ 2 วัน เว้น 1 วัน แล้วเนื้อนุ่มๆ ที่ขึ้นผิดที่ผิดทางก็จะหายไปจ้าาาา


ติดตามข้อมูลข่าวสารสุขภาพ โภชนาการอาหารที่ดี ดูแลรูปร่างและการออกกำลังกายที่น่าสนใจ ได้ที่ 
Facebook : www.facebook.com/behealthyonline

ปรึกษาเรื่องสุขภาพ ลดน้ำหนัก ลดพุง >>> Line : princesslingling


ขอบคุณที่มา: postjung / fittipaily.com / spokedark.tv

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

9 วิธีกินดีเพื่อสุขภาพ

วิธีที่ 1: กินอาหารครบ 5 หมู่-หมั่นดูแลน้ำหนักตัว

อาหารหลัก-5-หมู่
กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว

ข้อแนะนำนี้เป็นข้อแนะนำหลัก ยึดอาหารหลัก 5 หมู่ และเพิ่มความสำคัญของการกินอาหารแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด น้ำหนักตัวเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างง่ายถึงภาวะสุขภาพ ในผู้ใหญ่ที่กินอาหารได้เหมาะสม จะมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม มีรูปร่างที่ไม่อ้วนหรือผอมเกินไปและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่ หากสังเกตเห็นว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำหนักปกติ แสดงให้เห็นว่าเริ่มกินอาหารมากเกินไปแล้ว ควรจะต้องหันมาควบคุมลดปริมาณให้น้อยลง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เสื้อผ้าคับก่อนที่เริ่มรู้สึกตัวเพราะเสื้อผ้าสมัยใหม่มักนิยมใช้สายยืดเพื่อให้สวมใส่สบายหรือหากพบว่า น้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ ก็ควรต้องให้ความสนใจพร้อมทั้งสังเกตว่ามีการอ่อนเพลีย ง่วง ซึม หรืออาการที่แตกต่างไปจากปกติเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ สำหรับเด็ก ร่างกายมีการเจริญเติบโต น้ำหนักตัวควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่เหมาะสม ดังนั้น ควรหมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง


วิธีที่ 2 : กินข้าวเป็นอาหารหลัก-สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ

Madonna3

เพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของคนไทย จึงให้ความสำคัญกับการกินข้าวเป็นอาหารหลัก ถ้าเป็นไปได้ ควรกินข้าวซ้อมมือ เพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว ส่วนอาหารแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ให้กินเป็นบางมื้อ อาหารแป้งเป็นอาหารที่ผ่าน-การแปรรูป ใยอาหารจะมีน้อยกว่าในข้าว



วิธีที่ 3 : กินพืชผักให้มาก-กินผลไม้เป็นประจำ

อาหารหลัก-5-หมู่-แร่ธาตุ
กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ อาหารหลัก 5 หมู่ ของไทยมีเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การจัดแยกพืชผัก และผลไม้เป็นอาหารหลักคนละหมู่ เนื่องจากประเทศไทยมีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตลอดปี พืชผักและผลไม้ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่นสารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่แก่เกินวัย นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ



วิธีที่ 4 : กินปลา-เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน-ไข่-ถั่วเมล็ดแห้ง

26_201012281139542.กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
เป็นการกินอาหารที่ให้โปรตีน โดยเน้นปลาและอาหารประเภทถั่วเมล็ดแห้ง เช่น เต้าหู้ชนิดต่างๆ สำหรับเนื้อสัตว์ให้เลือกที่ไม่ติดมัน หรือที่มีมันน้อย ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำ เด็กควรกินวันละฟอง ผู้ใหญ่ภาวะปกติควรกินวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง ส่วนคนที่มีปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือดควรลดปริมาณลง



วิธีที่ 5 : ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย

milk27บางคนอาจมองเห็นว่าน้ำนมเป็นอาหารของต่างชาติ ไม่ควรส่งเสริมการบริโภค น่าจะให้คนไทยไปบริโภคอาหารอย่างอื่นจะดีกว่า อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาโดยรวม จะเห็นได้ว่าน้ำนมเป็นอาหารที่มีประโยชน์สมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้น้ำนมเป็นอาหารที่กินง่าย ราคาไม่แพงเกินไป มีหลายชนิดหาได้ทั่วไป จีงเป็นการสะดวกที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย ในกรณีที่ห่วงว่าคื่มนมมากๆ อาจทำให้อ้วน ผู้บริโภคสามารถเลือกดื่มนมพร่องไขมันได้ และในเวลาเดียวกันควรควบคุมปริมาณไขมันในอาหารชนิดอื่นด้วย เพราะเพียงไขมันจากน้ำนมอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน ปริมาณที่แนะนำคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว



วิธีที่ 6 : กินอาหารที่มีไขมันแต่พอตัว

shutterstock_96751819ถึงแม้ไขมันจะเกี่ยวข้องกับปัญหาโภชนาการ เช่น โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูงที่นำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือดได้ แต่ร่างกายต้องการไขมันเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะต้องควบคุมปริมาณและชนิดของไขมันที่จะบริโภคให้เหมาะสม ลดอาหารที่มีไขมันมาก เช่น หมูสามชั้น ขาหมูพะโล้และอาหารที่ใช้น้ำมันหรือกะทิจำนวนมากในการประกอบอาหาร



วิธีที่ 7 :หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัด-เค็มจัด

รูปถ่าย0790ส่วนประกอบสำคัญของอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด ได้แก่ น้ำตาล และเกลือแกง ซึ่งส่วนประกอบทั้ง 2 ชนิดเมื่อบริโภคมากเกินไป พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง วิธีปฏิบัตินอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัดแล้ว ผู้บริโภคควรพยายามรับประทานอาหารที่มีรสธรรมดา ไม่ควรที่จะต้องเติมน้ำตาลหรือเกลือเพิ่มเติมในอาหารที่ปรุงแล้ว หรือหันมากินอาหารแบบไทยเดิม ที่มีกับข้าวหลายชนิดเพื่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย



วิธีที่ 8 : กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน

1221775736การกินอาหารที่สะอาดนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยลดอันตรายจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นเชื้อโรค พยาธิ สารพิษ สิ่งแปลกปลอมต่างๆ ผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีการผลิตที่ถูกต้อง มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม อาหารสำเร็จรูปควรบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม สะอาด มีฉลากที่ถูกต้อง บอกวันหมดอายุ ส่วนประกอบ ชื่ออาหาร สถานที่ผลิต นอกจากนี้ผู้บริโภคควรมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การใช้ช้อนกลางหรือใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารมากกว่าการใช้มือ



วิธีที่ 9 :งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

 2010_04_30_180611_m97ex7paเมื่อดื่มมาก จะมีผลทำให้การทำงานของระบบสมองและประสาทช้าลง ทำให้เกิดการขาดสติได้ง่าย ที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคตับแข็งและการขาดสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด ดังนั้นควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด


เพจสุขภาพและออกกำลังกาย : www.facebook.com/behealthyonline

พุง 5 แบบ >> คุณมีพุงแบบไหน? ตรวจสอบลักษณะพุงป่อง พร้อมวิธีลดพุงแบบต่างๆ ได้ที่นี่


 
ผู้หญิงอย่างเรา หรือแม้แต่ผู้ชาย มักจะชอบบ่นเรื่องมีพุง พุงป่อง พุงโต กันเป็นประจำ และการที่เรามีพุงยื่นออกมา เป็นที่น่ารำคาญใจ
   มันมีสาเหตุมาจากอะไร พออ่านมาถึงตรงนี้ คงจะมีหลายคน รีบตอบอย่างมั่นใจ ว่าที่เป็นก็เพราะกินเยอะไป จนอ้วนลงพุงนั่นล่ะ แต่คุณจะรู้หรือไม่ ว่าหน้าท้อง ที่มันยื่นออกมานั่น อาจมาจากสาเหตุอื่น นอกจากการกินก็ได้ และที่สำคัญ ลักษณะของพุง หรือหน้าท้องของคนเรา ยังสามารถแบ่งแยกได้เป็นหลายประเภทด้วยนะ แต่จะแบ่งเป็นประเภทไหนบ้าง ลองไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยค่ะ


8178-001

1.“พุงเป็นชั้น” (Spare Tyre Tummy)
  ถือว่าเป็นพุงแบบที่แก้ไขได้ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยสาเหตุหลัก มาจากการกินอาหารที่มีรสหวานมากจนเกินไป และขาดการออกกำลังกายที่เพียงพอ โดยคนประเภทนี้มีแนวโน้มว่า จะเป็นผู้ที่ทำงานแบบนั่งโต๊ะ โดยมีนิสัยชอบกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต พวก ข้าว แป้ง ขนมปัง เค้ก และขนมหวาน โดยที่จะมีชั้นของไขมันที่มาก และมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน

วิธีลดพุงเป็นชั้น
- ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัว เพิ่มไขมันหน้าท้อง อยากให้ทราบว่า การดื่มแค่เพียงไม่กี่แก้ว จำนวน 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้มีไขมันหน้าท้อง หรือเรียกได้ว่าพุงยื่น นั่นเอง
- หลีกเลี่ยงอาการประเภทที่มีไขมันสูง เลิกกินอาหารจำพวกแป้ง เช่น ขนมขบเคี้ยวต่างๆ เพราะมันเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต น้ำมัน น้ำตาล เกลือ และสารกันบูด ซึ่งไม่ส่งผลดีกับร่างกายเลย
- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ไขมันต่ำ ที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อปลา เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารทอด หรือผัด ที่ต้องใช้น้ำมันเยอะๆ
- ออกกำลังกายให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเข้ายิมให้วุ่นวาย เพียงแค่ออกกำลังกายง่ายๆ ขณะอยู่บ้าน เช่นการเล่นโยคะ หรือเดินให้มากขึ้น ก็สามารถช่วยได้

8178-002

2. “พุงเครียด” (Stress Tummy)
  พุงเครียดนี้ มักจะเกิดกับคนที่มีนิสัยชอบความเฟอร์เฟค สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง และอาจมีปัญหาในเรื่องระบบย่อยอาหารควบคู่ไปด้วย เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) จึงทำให้หน้าท้องเกิดการบวมอืด โดยจะมีหน้าท้องยื่นออกมาระหว่างช่วงสะดือ และกระบังลม เมื่อเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายก็จะผลิต คอร์ติซอล (cortisol) ฮอร์โมน ที่ทำให้ร่างกายผลิตไขมันขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง คนที่มีนิสัยชอบกินอาหารไม่ตรงตามเวลา กินบางมื้อ ข้ามบางมื้อ และทำให้ไตทำงานผิดปกติ เพราะชอบทานเครื่องดื่ม ที่มีสารคาเฟอีน และกินอาหารขยะเป็นประจำ

วิธีลดพุงเครียด
- ทำใจให้สบาย แล้วนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบของร่างกาย ก็จะทำงานเผาพลาญพลังงานไม่เป็นปกติ และเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดการสะสมของน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตเอาไว้มากขึ้น
- หาเวลาผ่อนคลายความเครียด เช่นการนอนแช่น้ำนานๆ หรือไปพักผ่อน เข้าร้านสปา และลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน ห้ามดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อาจไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา พุงเครียด เพราะมันจะทำให้ฮอร์โมน คอร์ติซอล (cortisol) ถูกผลิตออกมามากขึ้น เปลี่ยนเป็นการเล่นโยคะ เดินไกล หรือกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อแทน

8178-003

3. พุงหมาน้อย หรือพุงป่องช่วงล่าง (The Little Pooch)
  ผู้หญิงที่มีพุงลักษณะนี้ มักจะเป็นคนที่มีธุรกิจรัดตัว ยุ่งอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะต้องทำงานอยู่ตลอด อาจจะเป็นคนที่ชอบ หรือเรียกว่าเสพติดการออกกำลังกายด้วยซ้ำ แต่ชอบออกกำลังกายท่าซ้ำๆ แน่นอนว่ามันทำให้ร่างกายคุณดูผอม แต่กลับมีพุงยื่นออกมา ทำลายภาพลักษณ์โดยรวมซะหมด อย่าออกกำลังกายส่วนท้องมากเกินไป เพราะมันจะทำให้หน้าท้องมีกล้ามเนื้อ และยื่นออกมาอย่างที่เห็น

วิธีลดพุงหมาน้อย หรือพุงป่องช่วงล่าง
- การรับประทานที่มีกากใยมากๆ สามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้นได้ และสามารถลดอาการบวดอืด ของหน้าท้อง โดยเน้นการรับประทานอาหารประเภท ผักใบเขียว ธัญพืชให้มากขึ้น
- การซิทอัพ ที่ผิดวิธี จะทำให้เกิดอาหารปวดหลังได้ ลองเปลี่ยนจากการซิทอัพ เป็นท่าแพลงกิ้ง วิดพื้น เพื่อออกกำลังกายช่วงแขน บ่า ไหล่ บ้าง
- ลองเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายแบบเซต สลับกันไปในแต่ละท่า ให้ร่างกายทุกส่วนได้ออกกำลังกายหมด

8178-004
4.พุงคุณแม่ “The Mummy Tummy”
  คนที่มีพุงลักษณะนี้ มักจะเป็นคุณแม่ ที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตรมาเมื่อไม่กี่ปี หรือมดลูกหย่อน ซึ่งโดยปกติแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ถึงจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งที่เราเรียกว่า มดลูกเข้าอู่นั่นเอง ซึ่งคุณแม่ทั้งหลาย ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ที่จะทำให้หน้าท้อง กลับคืนสู่สภาพเดิม จนกว่าจะถึงเวลานั้นนะคะ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า อย่าเพิ่งออกกำลังกาย จนกว่าร่างกายจะกลับสู่สภาวะปกติ ตอนนี้ให้เอาเวลาไปสนใจลูกน้อยที่เพิ่งคลอดดีกว่า จะไม่ได้ต้องเครียดจนเกินไป

วิธีการลดพุงคุณแม่
- ให้ลองกินผลิคภัณฑ์เสริมอาหาร ประเภทน้ำมันปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาพลาญไขมัน และลดการทำงานของฮอร์โมนที่เก็บสะสมไขมัน โดยการรับประทานน้ำมันปลาชนิดแคปซูล 1,000 มิลลิกรัม จำนวน 3 เม็ดทุกวัน ระหว่างรับประทานอาหาร
- พยายามรับประทานไขมันที่มีประโยชน์ เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก เป็นประจำทุกวัน
- นอนกลางวัน และยืดเส้นยืดสายซักเล็กน้อย ก่อนเข้านอน เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ที่ช่วยในการเผาพลาญไขมันให้มากขึ้น

8178-005
5. พุงป่อง “The Bloated Tummy”
  พุงลักษณะนี้ มักจะแบนราบในตอนเช้า และบวมอืดในตอนกลางวัน เนื่องจากแก๊ส ที่มาจากอาหารไม่ย่อย หรือที่เรียกว่าท้องอืดนั่นเอง และเป็นไปได้ว่า จะเกิดจากการแพ้อาหาร ลำไส้ทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารไม่ดี และเกิดจากการกินอาหาร แบบนี้เป็นประจำ โดยที่ไม่รู้เลยว่าแพ้อาหารชนิดนั้นๆ

วิธีลดอาการพุงป่อง The Bloated Tummy
- อาหารส่วนใหญ่ ที่ทำให้เกิดอาหารเช่นนี้ คือ พาสต้า ขนมปัง ฟิซซ่า เค้ก แอลกอฮอล์ หรือ นม เนย ชีส หรือแม้แต่โปรตีนจากข้าว อย่างกลูเตน ก็ทำให้หน้าท้องบวมขึ้นมา จนเป็นปัญหาหน้าท้องใหญ่
- ลองลดอาหารน่าสงสัย ที่กินอยู่ทุกวัน แล้วคอยสังเกตดูว่า หน้าท้องยังมีอาการอืดอยู่หรือไม่ และเพิ่มการรับประทานอาหารจำพวกพืชผัก และรับประทานโปรตีน จากปลา หรือไก่แทน
- รับประทานอาหารมื้อเช้า และหลีกเลี่ยงการทานอาหารในเวลากลางคืน เคี้ยวอาหารให้ละเอียด และดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ลองรับประทานอาหารจำพวก กระเทียม หัวหอม กะหล่ำปลี หรือผักเคล ให้มากขึ้น
- หลักการรับประทานอาหาร ลองเดินเล่นเพื่อย่อยอาหารซักครู่ เพื่อช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น


ขอบคุณข้อมูล : เพจ : www.facebook.com/behealthyonline , guru.sanook.com

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย

อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย

หลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น้ำ โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตอย่างยิ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อนำไปใช้ซ่อมแซม ลดการสึกหรอและเสริมสร้างกล้ามเนื้อนั่นเอง
    
       เรามาดูอาหารที่ควรรับประทานหลังออกกำลังกายกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง แต่ก่อนที่จะรับประทานอะไรเข้าไปก็ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรีที่คุณได้รับเข้าไปต่อวันด้วยนะ เอาเป็นว่าไม่มากไปไม่น้อยไปดีที่สุด ที่สำคัญควรรับประทานอาหารหลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว 30 นาทีขึ้นไปเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของร่างกายกันนะจ๊ะ

    
       ไข่
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารที่ดีโดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย ซึ่งไข่ใบเล็กๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นอุดมไปด้วยโปรตีนถึง 6.3 กรัม อีกทั้ง 1 ฟองยังมีเพียง 70 แคลอรีเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าไข่เป็นหนึ่งในอาหารจากธรรมชาติที่ดีอย่างยิ่ง จึงไม่แปลกใจเลยที่เรามักเห็นผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือแม้แต่นักเพาะกายชอบกินไข่กันนักหนา มีแต่ประโยชน์ล้วนๆ แบบนี้จะพลาดได้ยังไงกัน
    
       น้ำส้มคั้นสด
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       นอกจากคุณจะได้รับวิตามินซีในน้ำส้มคั้นแล้ว คุณยังจะได้รับโพแทสเซียมอีกด้วย ซึ่งสามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้ น้ำส้มคั้นสดจึงเป็นสิ่งที่ควรดื่มหลังออกกำลังกายเช่นกัน
    
       กล้วย
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       กล้วยจัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอย่างยิ่งเพราะอุดมไปด้วย โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, วิตามินเอ อีกทั้งยังมีแมกนีเซียม ที่สำคัญนั้นคาร์โบไฮเดรตในกล้วยสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วเมื่อรับประทานเข้าไปหลังออกกำลังกายจึงสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อและฟื้นฟูร่างกายได้ดีมาก
    
       ปลาแซลมอน
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       การรับประทานปลาแซลมอนนั้นร่างกายไม่เพียงแต่จะได้รับโปรตีนเท่านั้น แต่ทว่ายังได้รับสารโอเมก้า 3 อีกด้วย ซึ่งสารโอเมก้า 3 ที่พบในปลาแซลมอนนั้นยังสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อให้มากขึ้นอีกด้วย
    
       บลูเบอร์รี
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       บลูเบอร์รีจัดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูงมากทีเดียว ซึ่งมีงานวิจัยออกมาว่าบลูเบอร์รีสามารถช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นตัวหลังจากออกกำลังหนักๆ ได้
    
       ถั่วและผลไม้อบแห้ง
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       หากคุณเกิดอยากกินขนมขบเคี้ยวหลังออกกำลังกายขึ้นมาล่ะก็ นึกถึงถั่วและผลไม้อบแห้งไว้เป็นอันดับแรกเลย เพราะเนื่องจากว่าทั้งสองสิ่งที่เรากล่าวถึงอยู่นี้มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหลังออกกำลังกายคุณควรจะกินสิ่งเหล่านี้สักหนึ่งหรือสองกำมือ ซึ่งถั่วที่มีประโยชน์ต่อการสร้างกล้ามเนื้อมากที่สุดนั่นก็คือถั่วเหลือง เพราะครึ่งถ้วยมีโปรตีนถึง 34 กรัมเชียวล่ะ
    
       สับปะรด
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       สับปะรดถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อีกทั้งในสับปะรดยังมีสารบรอมีเลน (bromelain) ซึ่งสารนี้นอกจากจะช่วยย่อยโปรตีนได้แล้วยังสามารถช่วยต้านการอักเสบรักษาอาการฟกช้ำและเคล็ดขัดยอกได้ดีทีเดียว ที่สำคัญวิตามินซีในสับปะรดยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้อีกด้วย
    
       มันเทศ
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       มันเทศถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีเลิศเชียวล่ะ ในมันเทศประกอบไปด้วยวิตามินต่างๆ มากมาย อาทิ วิตามิน B6, วิตามิน C, วิตามิน D, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม และคาร์โบไฮเดรต เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมารับประทานหลังออกกำลังกาย
    
       กีวี
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       กีวีเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและโพแทสเซียม มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ สามารถซ่อมแซมกล้ามเนื้อภายหลังการออกกำลังกายได้ดีไม่แพ้อาหารชนิดอื่นๆ เลยล่ะ
    
       น้ำเปล่า
อาหาร 10 อย่าง ควรกินหลังออกกำลังกาย
       ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นอาจเกิดขึ้นได้หลังจากที่เราออกกำลังกาย ดังนั้นเพื่อเรียกความสดชื่นกลับคืนมา หลังออกกำลังกายให้สังเกตดูว่าน้ำหนักตัวนั้นหายไปเท่าไหร่ หากหายไปเท่าไหร่ก็ให้ดื่มน้ำกลับไปเท่านั้น ซึ่งปริมาณน้ำที่แนะนำให้ดื่มหลังออกกำลังกายนั่นก็คือ 2-3 แก้วนั่นเอง