ข้าวเหนียวมะม่วง ของหวานยอดฮิตประจำหน้าร้อน
ผลไม้ที่แสนจะดกและติดตลาดในช่วงหน้าร้อนนี้คงหนีไม่พ้นมะม่วงค่ะ (ถึงทุเรียนจะตีตื้นมาด้วยก็เถอะ) จะทานดิบแซบๆ ก็เข้าที จะทานสุกให้หวานลิ้นก็อร่อยไม่เบา ยิ่งถ้านำมาทำเป็นของหวานอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ด้วยแล้วล่ะก็... เด็ดอย่าบอกใคร วันนี้เรามีสูตรข้าวเหนียวมูล และวิธีเลือกมะม่วงหวานๆ ชุ่มปากมาบอกค่ะ
สูตรข้าวเหนียวมูลสำหรับข้าวเหนียวมะม่วง
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียว 350 กรัม
- กะทิ 1 กระป๋อง
- น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
- เกลือ 1¼ ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- ใบเตย 4-5 ใบ
วิธีทำ
1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืน
1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืน
2. เติมน้ำในซึ้งนึ่งแล้วนำขึ้นตั้งไฟค่อนข้างแรง รอจนน้ำเดือดจึงสะเด็ดน้ำข้าวเหนียวขึ้นมาห่อผ้าขาวบาง วางใบเตยลงไปประมาณ 2 ใบแล้วนำไปนึ่ง
3. นึ่งไปประมาณ 30 นาที หรือจนข้าวเหนียวสุก (สังเกตว่าเม็ดข้าวเหนียวจะใสขึ้น)
3. นึ่งไปประมาณ 30 นาที หรือจนข้าวเหนียวสุก (สังเกตว่าเม็ดข้าวเหนียวจะใสขึ้น)
4. นำกะทิมาแบ่งไว้ ¾ ถ้วย สำหรับกะทิส่วนที่เหลือให้นำไปใส่หม้อเล็กๆ ใส่น้ำตาลและเกลือ 1 ช้อนชาลงไปแล้วนำไปตั้งบนไฟอ่อน
5. ใส่ใบเตยที่เหลือลงในหม้อกะทิ ใช้ทัพพีคนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย อย่าให้กะทิเป็นก้อน รอจนกะทิเดือดก็ปิดเตาและยกลงพักไว้
5. ใส่ใบเตยที่เหลือลงในหม้อกะทิ ใช้ทัพพีคนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย อย่าให้กะทิเป็นก้อน รอจนกะทิเดือดก็ปิดเตาและยกลงพักไว้
6. ตักข้าวเหนียวที่สุกแล้วใส่ในอ่างผสม เทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆ ให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุอีกประมาณ 15 นาที
7. นำกะทิ ¾ ถ้วยที่แบ่งไว้มาผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ ¼ ช้อนชา นำไปตั้งไฟ คนเรื่อยๆ จนกะทิข้นและเดือดจึงยกลง ใช้เป็นกะทิสำหรับราดหน้า
8. ตักข้าวเหนียวใส่จาน ราดด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุก
การเลือกมะม่วงสุกสำหรับข้าวเหนียวมะม่วง
1. มะม่วงสุกที่นิยมนำมาทานกับข้าวเหนียวมูลคือ มะม่วงอกร่อง และ มะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งมีรสหวานหอม
2. ควรเลือกมะม่วงสุกที่ผลอวบ และเปลือกมีรอยดำบ้างเล็กน้อย เพราะจะแน่ใจได้ว่ามะม่วงสุกจริงหรือสุกเองตามธรรมชาติ
3. ลองใช้นิ้วกดเบา หากเนื้อมะม่วงยุบลงไปเล็กน้อยแปลว่าสุกได้ที่แล้ว (แอบทำนะคะ เดี๋ยวแม่ค้าดุ) แต่หากไม่ยุบแสดงว่าอาจจะเป็นมะม่วงที่โดนบ่มแกสให้ผิวเหลีองแต่เนื้อำไม่สุกจึงอาจจะแข็งและเปรี้ยว
การเลือกมะม่วงสุกสำหรับข้าวเหนียวมะม่วง
1. มะม่วงสุกที่นิยมนำมาทานกับข้าวเหนียวมูลคือ มะม่วงอกร่อง และ มะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งมีรสหวานหอม
2. ควรเลือกมะม่วงสุกที่ผลอวบ และเปลือกมีรอยดำบ้างเล็กน้อย เพราะจะแน่ใจได้ว่ามะม่วงสุกจริงหรือสุกเองตามธรรมชาติ
3. ลองใช้นิ้วกดเบา หากเนื้อมะม่วงยุบลงไปเล็กน้อยแปลว่าสุกได้ที่แล้ว (แอบทำนะคะ เดี๋ยวแม่ค้าดุ) แต่หากไม่ยุบแสดงว่าอาจจะเป็นมะม่วงที่โดนบ่มแกสให้ผิวเหลีองแต่เนื้อำไม่สุกจึงอาจจะแข็งและเปรี้ยว
ประโยชน์และโทษของข้าวเหนียวมะม่วง
ประโยชน์ของข้าวเหนียวมะม่วง | โทษของข้าวเหนียวมะม่วง |
กะทิจะช่วยทำให้วิตามินเอและอีจากมะม่วงดูดซึมดีขึ้น | เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจึงไม่เหมาะกับผู้มีน้ำหนักเกิน |
เนื้อมะม่วงสุกช่วยชะชอให้น้ำตาลจากข้าวเหนียวดูดซึมช้าลง | แป้งข้าวเหนียวเปลี่ยนเป็นไขมัน “ไตรกลีเซอไรด์” ได้ ถ้าหนักข้าวเหนียวเกินไปทำให้เกิด “มันจุกตับ”ได้ |
เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง | กะทิกับข้าวเหนียวมีธาตุเค็มที่เร่งความดันสูง |
มะม่วงให้ไฟเบอร์สูง | มะม่วงสุกหวานกับข้าวเหนียวหวานมันกระตุ้นอาการอักเสบร้อนในได้ |
ช่วยทำให้สดชื่นในผู้ที่เบื่ออาหารหรือรับประทานอาหารมื้อหลักไม่ค่อยได้ | ถ้ากินร่วมกับอาหารมื้อหลักอาจทำให้นอนไม่หลับหรือรู้สึกไม่สดชื่นเพราะให้พลังงานสูงมาก |
1. ให้หนักมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว
2. ใช้ข้าวเหนียวดำเพราะมีไฟเบอร์และแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นดี
3. มื้อใดกินข้าวเหนียวมะม่วงมื้อนั้นไม่ควรรับประทานข้าวแล้ว
4. ให้ถือข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารมื้อหนักมื้อหนึ่ง
5. รับประทานทีละชุดเล็ก เช่น มะม่วงหนึ่งลูกต่อข้าวเหนียวมูนขนาดเท่ามะม่วงครึ่งลูก
6. ขอให้รับประทานช่วงเที่ยงจะดีกว่าก่อนนอน
พลังงานที่ได้จากข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียวมะม่วง 1 จานเล็กสำหรับ 1 คน 220 กรัม ให้พลังงาน 365 กิโลแคลอรี่
ต้องออกกำลังกายกำจัดพลังงานจากข้าวเหนียวมะม่วงด้วยการ...
พลังงานที่ได้จากข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียวมะม่วง 1 จานเล็กสำหรับ 1 คน 220 กรัม ให้พลังงาน 365 กิโลแคลอรี่
ต้องออกกำลังกายกำจัดพลังงานจากข้าวเหนียวมะม่วงด้วยการ...
- เดิน 131 นาที
- วิ่ง 58 นาที
- ว่ายน้ำ 41 นาที
- ปั่นจักรยาน 77 นาที
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ
momymedia
healthcarethai
fit-d
fit-d